‘ปีศาจแดง’ กับ ‘ความผิดพลาด’ 2 ครั้งในฤดูกาล (ครั้งแล้วกับครั้งเล่า)

ปีศาจแดง

ปีศาจแดง’ กำลังจะคว้า 3 แต้มที่อยู่ในมือ และทำอันดับพุ่งแซงหน้าอันดับ 3 และ 4 ทั้ง เลสเตอร์ ซิตี้ และเชลซี แล้วแท้ ๆ ในเกมที่พวกเขาต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของทีมนักบุญ ‘เซาท์แธมป์ตัน’ และจะถือเป็นชัยชนะติดต่อกันเป็นนัดที่ 5 อีกด้วย แต่หลังจากเสียประตูจากลูกเตะมุมในนาทีที่ 6 ของช่วงทดเวลา ทุกอย่าง ‘พังทลาย’ ฝันของพวกเขาสลายลงอีกครั้ง

ปีศาจแดง’

ความผิดพลาดครั้งนี้ ถือเป็นความผิดพลาดเพียงครั้งที่ 2 ของปีศาจแดงในฤดูกาลนี้เท่านั้น นั่นคือ ‘ครั้งแล้ว’ กับ ‘ครั้งเล่า’ เป็นกี่ครั้งแล้วที่นับไม่ถ้วนกับการปล่อยโอกาสทองในการเกาะกลุ่มพื้นที่แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้หลุดมือไปอีกครั้งซ้ำยังมาโดนยิงประตูในช่วงเวลาที่แฟนยูไนเต็ดเรียกกันว่า ‘ เฟอร์กี้ ไทม์ นั่นส่งผลให้ลูกสมุนของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ไม่มีโอกาสได้แก้ตัว ชนิดที่ว่า เซอร์ อเล็กซ์ ตัวเป็น ๆ ที่นั่งดูอยู่ข้างสนาม คงอยากจะลงไปมะเหงกเด็กพวกนี้ให้หัวแตก 

ปีศาจแดง ความผิดพลาดครั้งแล้ว ครั่งเล่า ปล่อยให้โอกาสทองหลุดมือไปอีก

เกมในวันนี้จะว่าไปก็คล้ายกับเกมที่แล้วที่ ปีศาจแดง เจอกับ แอสตัน วิลล่า เพราะรูปเกมในช่วงแรก ยูไนเต็ด ต่างก็โดนทั้งสองทีมโหมเพรสซิ่งในช่วงแรกจนตั้งลำแทบไม่เป็นขบวนแต่จุดเปลี่ยนคือ ‘ความเฉียบขาด’ ของผู้เล่นปีศาจแดง ที่ยังคงเล่นแบบไม่หวั่นเกรงเกมเพรสซิ่งของทีมเยือน จนมาได้ประตูตีเสมอจาก ‘มาร์คัส แรชฟอร์ด’ พาโมเมนตัมของทีมกลับมาจนได้ในที่สุดและหลังจากประตูดังกล่าวแค่ 3 นาที ‘ปีศาจแดง’ ก็มาพลิกนำกันหน้าด้าน ๆ โดยเริ่มจากแกะเพรสซิ่งของทีมนักบุญได้สำเร็จ โดยใช้เวลาจากแดนหลังขึ้นมาถึงประตูแค่ 11 วินาทีเท่านั้น ก่อนที่ ‘มาร์กซิยาล’ จะกระชากหนี ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส ที่วันนี้ดูจะเอาเกมรุกของปีศาจแดงไม่ค่อยอยู่ เข้าไปซัดตุงตาข่าย

หลังจากนั้น เซาท์แธมป์ตัน เหมือนโดนหมัดน็อค เลิกเพรสซิ่งสูงทันที ทำให้ปีศาจแดงได้เซ็ทเกมขึ้นมาจากแดนหลังได้ตามถนัด เซ็ทบอลไปเรื่อย ๆ หาโอกาสจบบ้างเป็นครั้งคราวปีศาจแดง ถือว่ามีโอกาสปิดเกมอยู่หลายหน ไม่ว่าจะเป็นลูกยิงจ่อ ๆ ของแรชฟอร์ด รวมถึงลูกโซโล่ของมาร์กซิยาล ที่ยังกับโดนตอเรสเข้าสิง ซึ่งแม้ทั้งสองคนจะทำประตูได้เกินมาตรฐานในเกมนี้ แต่หากเทียบกับมาตรฐานของบรรดากองหน้าระดับโลกแล้ว ต้องถือว่าทั้งความเยือกเย็นและความเฉียบขาดของสองรายนี้ ยังต้องขัดเกลาอีกพอสมควร

ปีศาจแดง แมนยู

เกมนี้น่าจะเป็นเกมแรกที่ ‘บรูโน่ แฟร์นันเดส’ แข้งเทพเจ้าส่งมาเกิดของปีศาจแดงเล่นไม่ค่อยออก รวมถึงป๊อกบา ที่ดูเหมือนมีอาการล้าด้วยกันทั้งคู่จนถูกเปลี่ยนตัวออกไปพักในช่วงท้ายครึ่งหลังซึ่งนี่ก็เป็นอีกเกมที่โซลชาร์ ตัดสินใจส่งเฟร็ด และ แมคโทมิเนย์ ลงมาปิดเกม แต่กลับทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ตัดเกมไล่บดทีมเยือนไม่จน โดนบดโดนกดดันอยู่ตลอดเวลา

แถมยังแอบซวยเล็ก ๆ เมื่อเจ้าหนู แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ ที่ถูกเปลี่ยนลงมาแทน ลุค ชอว์ ที่บาดเจ็บบริเวณข้อเท้า กลับมาหัวแตกในจังหวะปะทะไปอีกคน ทำให้ปีศาจแดง ต้องอดทนเล่นทั้งที่เหลือผู้เล่นเพียง 10 คน จนมาโดนตีเสมอในช่วงท้ายเกมจาก ‘โอบาเฟมี่’ ตัวสำรองซุปเปอร์ซับ แบ่งแต้มไปจากเจ้าบ้านได้สำเร็จทำให้จากที่จะขึ้นนำเป็นอันดับ 3 ของตารางชิว ๆ กลายเป็นต้องจมอยู่ที่ 5 ตามเดิม เพิ่มเติมคือความกดดันที่บีบเข้ามาเนื่องจากเหลือเกมให้ลงเล่นอีกเพียงแค่ 3 เกมเท่านั้น ซึ่งหากมองจากประสิทธิภาพของทีมหลังจากได้บรูโน่เข้ามายกระดับทีมแล้วก็ต้องบอกว่า คงจะ ‘น่าเสียดาย’ แทนแฟนบอล หากปีศาจแดงไม่ได้ไปเล่นฟุตบอลยุโรปในปีหน้า