แม็คโทมิเนย์ – มิดฟิลด์สายบู๊ที่ยูไนเต็ดขาดหายไปอย่างยาวนาน (ภาค 1)

มิดฟิลด์สายบู๊ที่ยูไนเต็ดขาดหายไป

สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ปี 1996 และได้เข้าร่วมอะคาเดมี่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ตอน ที่มีอายุได้เพียง 5 ขวบ จวบจนถึงปัจจุบันก็นับเป็นเวลารวมได้ 18 ปีเข้าไปแล้ว ที่เขาอาศัยชายคาปีศาจแดง เพาะบ่มฝีเท้าจนกำลังจะได้ขึ้นเป็นผู้เล่นขุมกำลังชุดใหญ่อย่างเต็มตัว

มิดฟิลด์สายบู๊ที่ยูไนเต็ดขาดหายไป
วัยเด็กของเจ้าหนูแม็คซอส

แม็คโทมิเนย์ เริ่มเล่นฟุตบอลจากตำแหน่งศูนย์หน้า ก่อนจะถอยลงมาเล่นกองกลางให้กับชุด U-18 ของปีศาจแดงหลังจากที่เซ็นสัญญานักเตะอาชีพฉบับแรก ในช่วงปี 2013-15 โดยเจ้าหนูสก็อตตี้ ต้องประสบกับปัญหาอาการบาดเจ็บจนต้องปิดม่านก่อนเวลาอันควรในฤดูกาล 2014/15 และในช่วง 2 ปีนี้เอง ก็เป็นช่วงที่เขายืดส่วนสูงได้มากถึง 14 นิ้วเลยทีเดียว

มิดฟิลด์สายบู๊ที่ยูไนเต็ดขาดหายไป
แม็คโทมิเนย์ เวอร์ชั่น มูรินโญ่

โจเซ่ มูรินโญ่ อดีตนายใหญ่ทัพปีศาจแดง คือผู้ที่ให้กำเนิดแม็คโทมิเนย์ในการขึ้นชุดใหญ่ โดยสไตล์การเล่นของเขาในตอนนั้นคือการรับบทบาทแบบเดียวกันกับ อันเดร เอเรร่า ซึ่งบางครั้ง เขาก็ถูกมอบหมายให้เล่นในสไตล์ box-to-box บางครั้งก็จะได้เล่นเกมรับจ๋าไปเลย โดยคุณสมบติเด่น ๆ ที่เรามักจะได้เห็นจากเจ้าหนูรายนี้ ก็ได้แก่ การตัดบอล และความดุดัน เขาชอบการเข้าปะทะ ตัดบอล และก็มักจะหยุดเกมของคู่แข่งได้บ่อย ๆ เสียด้วย และเมื่อไรก็ตามที่เขาได้รับมอบหมายให้ประกบนักเตะสักคนในสนาม นั่นคือนรกของนักเตะรายนั้นโดยแท้ นอกจากนี้ การเชื่อมบอลระหว่างรับและรุกแบบฉับพลัน ภาพที่เรามักจะได้เห็นคือหลังจากที่เจ้าหนูแม็คซอสตัดบอลได้ เขามักจะชอบพาบอลขึ้นหน้า พร้อมโต้กลับอยู่เสมอ

แม็คโทมิเนย์ – มิดฟิลด์สายบู๊ที่ยูไนเต็ดจำเป็นต้องมี

มิดฟิลด์สายบู๊ที่ยูไนเต็ดขาดหายไป
แม็คโทมิเนย์ เวอร์ชั่น โซลชาร์

ด้วยความที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ได้ให้โอกาสกับทุกคนในทีมในยุคแรกเริ่มที่เข้ามาคุมทัพแทนมูรินโญ่ ทำให้ แม็คโทมิเนย์ ก็คว้าโอกาสที่ว่านั้นไว้ได้ด้วยฟอร์มการเล่นที่เอาชนะใจแฟนบอล หนึ่งในนั้นคือค่ำคืนมหัศจรรย์ที่พลิกเข้ารอบได้ในกรุงปารีส

โดยนัดนั้น เขาได้รับบทบาทเป็นคู่หูในแดนกลางของ เฟร็ด เนื่องจากอาการบาดเจ็บของนักเตะภายในทีม โดยเขาแสดงให้เห็นถึง ความแข็งแกร่งของร่างกายที่สุดยอด คอยชะลอเกมของ เปเอสเช ได้อย่างหมดจด แถมยังคอยสร้างความกดดันให้ฝั่งตรงข้ามจากเกมโต้กลับที่เริ่มมาจากตัวเขาอีกด้วย

และหลักจากนั้น ในเกมยุโรปกับยอดทีมต่างดาวอย่าง บาร์เซโลน่า เจ้าหนูสก็อตต์ก็เล่นได้อย่างโดดเด่น ซึ่งมันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนเลยว่า เขาพร้อมแล้วที่จะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักให้กับสโมสรแม่อย่างเต็มตัว และด้วยคาแรคเตอร์ เขาก็แสดงออกอย่างชัดเจนเลยว่า เขาพร้อมแย่งตำแหน่งกับทุกคน และไม่กลัวใครหน้าไหนทั้งสิ้น (ต่อภาค 2) เว็บไซต์ฟุตบอล คลุกวงใน